เกี่ยวกับเรา
ความเป็นมา
แนวคิดธนาคารเวลา โดยธนาคารเวลาก่อตั้งโดย Edgar Cahn ชาวอเมริกา ภายใต้แนวคิดหลัก “เพื่อนบ้านช่วยเพื่อนบ้าน” กฎหลักของธนาคารเวลาคือ “เวลาของทุกคนมีค่าเท่ากัน” นั่นคือการให้บริการช่วยเหลือทุกการกระทำ 1 ชั่วโมง = 1 เครดิตเวลา (คะแนน) ธนาคารเวลาจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีผู้นำหรือ “คณะทำงานที่มีธรรมาภิบาล” ซึ่งเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ กฎ ระเบียบ ว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดเป็นข้อห้ามสำหรับการบริการให้กับสมาชิกโดยมีค่านิยมหลัก 5 ประการ เป็นตัวกำหนดขอบเขต ได้แก่1) ทุกคนมีประสบการณ์แบ่งปันได้
2) เปลี่ยนงานแลกเงินเป็นเวลา
3) เปลี่ยนการถามเป็นอาสา
4) สร้างเครือข่ายสังคม
5) เคารพซึ่งกันและกันบนความเท่าเทียม
แนวคิดการดำเนินการธนาคารเวลานี้จึงน่าจะมีการนำมาประบุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมให้คนในสังคมดูแลซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยจิตอาสาจะได้รับการดูแลหรือการตอบแทนอื่นๆ ตามจำนวนเวลาที่สะสมไว้ในบริบทที่เหมาะสมกับสังคมไทย
จากสถานการณ์ปัญหาและต้นทุนทางสังคมในเบื้องต้นด้านความมีจิตอาสา การนำแนวคิดการดำเนินงานธนาคารเวลาเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่จะสามารถนำมาปรับใช้กับบริบทและวัฒนธรรมสังคมไทยได้ ด้วยประเทศไทยมีทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่เข้มแข็งในเรื่องของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การดูแลซึ่งกันและกัน และมีจิตอาสาที่เข้ามาเป็นอาสาสมัครอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งยังจำเป็นต้องมีการประสานทำความเข้าใจกับเครือข่าย องค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการร่วมดำเนินงานธนาคารเวลาตามบริบทพื้นที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป
วัตถุประสงค์
1. พัฒนากลไกการหนุนเสริมในการจัดตั้งหรือดำเนินแนวคิดธนาคารเวลา ภายในพื้นที่เป้าหมาย2. สร้างการรับรู้และหนุนเสริมการดำเนินงานขับเคลื่อนธนาคารเวลาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน
3. พัฒนาการจัดตั้งหรือแนวคิดธนาคารเวลาในพื้นที่ชุมชนเขตเมือง หรือในระดับหน่วยงาน องค์กรอย่างเหมาะสม
กลุ่มเป้าหมายที่จะดำเนินการ
1) กลุ่มผู้สูงอายุในเขตเมือง โดยคัดเลือกอย่างน้อย 2 กลุ่มจากพื้นที่ดังต่อไปนี้ ชุมชน คอนโดมิเนียม ชมรมผู้สูงอายุ โดยการพิจารณาคัดเลือกจากความพร้อมในการทำงานร่วมกัน2) หน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องในการร่วมขับเคลื่อนและดำเนินการธนาคารเวลา เช่น โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา กรมคุมประพฤติ จส.100 บริษัทเอกชนที่สนใจ เป็นต้น
ตัวชี้วัด
1. มีกลไกการประสาน หนุนเสริมในการจัดตั้งหรือดำเนินกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อดูแลผู้สูงอายุตามแนวคิดธนาคารเวลาในพื้นที่ดำเนินการ2. ความร่วมมือในการจัดตั้งและหนุนเสริมการขับเคลื่อนการดำเนินงานธนาคารโดยหน่วยงาน องค์กรภาคเอกชน
ผลผลิต
1. เกิดการประสานงานเพื่อเกิดการจัดตั้ง หรือดำเนินกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อดูแลผู้สูงอายุตามแนวคิดธนาคารเวลาภายในพื้นที่เป้าหมายจำนวนอย่างน้อย 2 แห่ง2. เกิดการหนุนเสริมดำเนินกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อดูแลผู้สูงอายุตามแนวคิดธนาคารเวลา ภายในพื้นที่เป้าหมายจำนวนอย่างน้อย 2 แห่ง
3. เกิดการประสานความร่วมมือในการจัดตั้งและหนุนเสริมการขับเคลื่อนการดำเนินงานธนาคารโดยหน่วยงาน องค์กรภาคเอกชนอย่างน้อย 3 หน่วยงาน/องค์กร
4. รายงานผลการดำเนินงานที่ประกอบด้วยเสียงสะท้อนจากกลุ่มเป้าหมายที่ร่วมการดำเนินงาน รวมทั้งภาพกิจกรรมและสถานที่
5. ได้ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อหนุนเสริมการจัดตั้งธนาคารเวลารองรับสังคมสูงวัยภายใต้บริบทพื้นที่เป้าหมาย
ผลลัพธ์
1. เกิดกลไกสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อดูแลผู้สูงอายุตามแนวคิดธนาคารเวลาในพื้นที่ดำเนินการ2. เกิดการรับรู้และสนับสนุนการดำเนินงานขับเคลื่อนธนาคารเวลาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. ผู้สูงอายุในพื้นที่ดำเนินการได้รับการดูแล หรือร่วมกันช่วยเหลือ ดูแลผู้สูงอายุในเครือข่ายได้
"ในฐานะสมาชิก : รู้สึกยินดีมาก ที่ภาครัฐเห็นความสำคัญและสนับสนุนให้มีการจัดตั้งธนาคารเวลา ซึ่งเป็นสังคมอุดมคติที่น่าจะเป็นจริงได้ ได้รับรู้และสัมผัสได้ถึง 'สังคมแห่งการแบ่งปัน' ถ้อยทีถ้อยอาศัย และรู้สึกมีความหวังต่อพัฒนาการของสังคมไทยในเชิงบวก ในฐานะกรรมการดำเนินงาน : ได้รับการพัฒนาทักษะหลายด้าน ได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของ 'ความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความไว้เนื้อเชื่อใจกัน การให้เกียรติกัน อันเป็นรากฐานที่สำคัญของการดำเนินกิจกรรมของธนาคารเวลา"
คุณอ๋า อายุ 50 กว่าปี
"ธนาคารเวลาทำให้ เราได้แบ่งปันเวลาให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น เป็นการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันและเกื้อกูลกัน ได้พัฒนาจิตใจตนเอง สร้าง self esteem เรียนรู้ว่าเราสามารถทำให้สังคมน่าอยู่ได้ในทุกชุมชนที่เราอยู่อาศัย โดยนำประสบการณ์ความรู้ที่มี มาแบ่งปันกับผู้อื่น เป็นการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย"
คุณเจี๊ยบ อายุ 50 กว่าปี
"ธนาคารเวลา คือ การแสดงออกมาทางรูปธรรมด้วยความสัมพันธ์ที่ดีงาม และความเกื้อกูล มีน้ำใจต่อกันระหว่างสมาชิก"
ป้าหน่อย อายุ 60 กว่าปี
"ธนาคารเวลาทำให้เกิดการแบ่งปัน ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเรามีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ผ่านการสร้างความสัมพันธ์ในรูปแบบของกิจกรรม ธนาคารเวลาต้องการผู้ที่มีความเป็นผู้นำคอยประสาน ธนาคารเวลาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสังคมในทุกระดับชั้น"
คุณเก๋ อายุ 50 กว่าปี
"อย่างแรกเลยคือความกระตือรือล้นกระฉับเฉง รู้สึกเหมือนว่าเราเจอเป้าหมายของชีวิตที่เหลืออยู่แล้ว ต่อไปเราจะมีที่ ๆ จะทำงานจิตอาสาที่เราสามารถใช้ทักษะที่เรามีไปช่วยเหลือคนอื่นได้โดยไม่ต้องรอหรือค้นหาจากที่ต่างๆ
พอได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการธนาคารเวลา ที่ต้องช่วยกันวางรากฐานรูปแบบและการดำเนินการต่างๆ มันก็เปลี่ยนแปลงความคิดและตัวเองไปในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ต้องใส่ใจสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นไม่ว่าจะเป้าหมายที่สำคัญของธนาคารเวลาที่มีมากกว่าการแลกเวลาผ่านกิจกรรมการ Give&Take นั่นก็คือการสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีทั้งกับพี่ ๆ น้อง ๆ ในกลุ่มคณะกรรมการ กลุ่มบุคคลภายนอกที่เราต้องร้องขอความช่วยเหลือ รวมทั้งเหล่าสมาชิกที่เราต้องดูแลใส่ใจ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ และกังวลมาก ๆ ทำให้ต้องไปใฝ่หาและเสริมสร้างทักษะการพูด การสื่อสารอย่างไรให้คนอื่นเข้าใจเราและสิ่งที่กำลังคิดและกำลังทำง่ายขึ้น
ขณะเดียวกันก็พยายามปรับตัวและเรียนรู้ผู้ร่วมงานรอบ ๆ ตัว พยายามไม่เอาตัวเองเป็นหลัก ลดทิฐิในตัวเอง พยายามเรียนรู้การอ้อนน้อมถ่อมตน รู้จักเปิดใจยอมรับฟังผู้อื่นอย่างไม่ตัดสิน และเพิ่มการไตร่ตรองการทำงานทุกอย่างมีสติ มีระบบระเบียบและความน่าจะเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งทุกสิ่งเหล่านี้เราค่อย ๆ เรียนรู้ ซึมซับและเปลี่ยนแปลงตัวเองผ่านการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นและหน้าที่ความรับผิดที่ทำในกลุ่มธนาคารเวลา
ขอบคุณธนาคารเวลา ที่เป็นมากกว่าการแลกเวลาเพื่อทำกิจกรรม Give&Take แต่เป็นที่ ๆ ให้เราได้เรียนรู้วิธีดูแล ใส่ใจ และมอบความปรารถนาดีให้ผู้อื่นด้วย"
คุณตุ้ย อายุ 50 กว่าปี
"ธนาคารเวลาได้สร้างความเปลี่ยนแปลงโดยลำดับให้ตัวเราดังนี้ .
เกิดความสนใจ อยากรู้ ทำความรู้จัก เกี่ยวกับธนาคารเวลา จนเกิดการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อยมาจากสื่อภายนอก เกิดการเรียนรู้ และรับฟังความคิด ความเห็นผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่ม เกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยนกับสมาชิกในกลุ่มไลน์ .
เกิดความคาดหวังและเชื่อมั่นว่า ธนาคารเวลาจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับสังคมไทย นอกเหนือไปจาก งานสงเคราะห์ งานจิตอาสา หน่วยงานดูแลสังคมจากภาครัฐ ที่มีอยู่แล้ว ที่เพียงเน้นไปยังผู้ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่สำหรับธนาคารเวลาจะเริ่มตั้งแต่ การเรียนรู้ การพัฒนาและการใช้ศักยภาพของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยน แบ่งปัน โดยไม่ต้องเป็นภาระหรือรอคอยความช่วยเหลือจากภาครัฐ .
เกิดการมีส่วนร่วมในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อใช้เวลาของตนเองให้เกิดประโยชน์ในการ เรียนรู้ แลกเปลี่ยน แบ่งปัน ประสบการณ์ ความรู้ มุมมองในชีวิต ธรรมะ และทีสำคัญคือได้รับความประทับใจ อิ่มใจกับการได้เพื่อนใหม่ มิตรภาพ ความเอื้ออาทร การให้อภัยซึ่งกันและกัน .
เกิดโอกาสหลายครั้งหลายคราในการใคร่ครวญตรวจสอบ ความรู้สึก ความคิด ความเห็น ความคาดหวัง ตลอดจนความเชื่อ และ อคติของตัวเอง ผ่านรูปแบบต่างๆ ในการสื่อสารกับเพื่อนในกลุ่มคณะทำงาน และในกลุ่มสมาชิก ผ่านความขัดแย้งทางความคิดกับคนอื่น ผ่านการมองเห็นต่าง ผ่านสไตล์ (style) การพูดและการกระทำที่มีต่อกัน ซึ่งแน่นอนมักต้องมีสิ่งนำมาก่อนเสมอ ๆ จาก อารมณ์ความรู้สึก ความสุขใจ ความภูมิใจ ความประทับใจ ความเครียด การเฝ้าครุ่นคิด ฟุ้งซ่าน ภาวะทางกาย เช่น นอนไม่หลับ ไม่สบายตัว แอบยิ้มในใจ"
คุณหริ อายุ 50 กว่าปี
"ธนาคารเวลาสร้างเสริมทัศนคติที่ดีให้แก่สังคม ยกระดับความว่า "จิตสาธารณะ" ให้เกิดในจิตใจเรา ส่งต่อไปยังสังคม การร่วมกลุ่มกันเป็นธนาคารเวลาส่งผลให้เห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อกลุ่มร่วมกันทำงานเพื่อสังคมจะมีประสิทธิและส่งผลต่อสังคมโดยรวมอย่างชัดเจน ความเข้มแข็งของกลุ่มธนาคารเวลาที่เกิดจากพื้นฐานความสัมพันธ์ภายในของสมาชิก ทำให้เกิดความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไม่จะเรื่องของการเดินทาง อาหารการกิน เกิดการแบ่งปันกัน ทำให้สังคมเข้มแข็งได้ในอนาคต เมื่อแต่ล่ะธนาคารเวลาเชื่อมโยงกัน ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้"
คุณอิฐ อายุ 30 กว่าปี
"สร้างสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ ด้วยใจที่แบ่งปันจนเกิดสังคมเล็ก ๆ ที่เอื้ออาทรต่อกันด้วยกิจกรรมดี ๆ เป็นสะพานบุญที่เชื่อมให้ถึงกันและยังเชื่อมไปถึงกับบุคคลในครอบครัวที่เป็นลูกให้รู้สึกถึงการแบ่งปันต่อเพื่อน ๆ ที่ขาดโอกาสและถูกกระทำโดยไม่สมัครใจ"
คุณเกี๊ยก อายุ 60 กว่าปี
"ธนาคารเวลาที่เราตั้งขึ้นมา เป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับคนไทย และยังไม่มีการประชาสัมพันธ์แพร่หลายจากหน่วยงานของรัฐฯ ธนาคารเวลาของพวกเรารวมตัวกันได้. ก็ทำให้เกิดสังคม ที่มีความคิดไปในแนวทางเดียวกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เท่าที่ทำได้และจำเป็น และเราหาโอกาสช่วยเหลือสังคมเท่าที่สักกายาภาพของเราเอื้ออำนวย ถ้าหน่วยงานภาครัฐจะเข้ามาสนับสนุนมากกว่านี้ ให้ธนาคารเวลาในประเทศไทยเป็นรูปธรรมมากขึ้น จะดีไม่น้อยและจะมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจนมากขึ้น"
คุณติ้ง อายุ 50 กว่าปี
"ธนาคารเวลาทำให้ชีวิตมีคุณค่าสามารถทำประโยชน์ให้ผู้อื่นได้กำไรเป็นเวลาเก็บสะสมไว้ใช้ยามจำเป็น รู้สึกอุ่นใจไม่โดดเดี่ยวเพราะมีกลุ่มคนที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจคอยให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ได้ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมกับกลุ่มคนที่มีแนวคิดเดียวกันฝึกลดตัวตนและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น"
คุณเดือน อายุ 60 กว่าปี
"สร้างความสุขที่ได้ให้เพื่อน ๆ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ได้เห็นความสุขจากใจของเพื่อน ๆ และผู้ได้รับความช่วยเหลือ น้ำตาเอ่อนะนึกถึงทีไร"
คุณอู๊ด อายุ 60 กว่าปี
"มีความสบายใจ ไม่ต้องกังวลใจในการรับความช่วยเหลือจากผู้อื่นในเวลาจำเป็น ฉุกเฉิน เพราะเรามีระบบในการแลกเปลี่ยนเวลาเป็นคะแนน สะสมไว้เพื่อนำไปแลกใช้ในคราวจำเป็น อย่างมีศักดิ์ศรี เราจะมีเงินสักเท่าไรก็ไม่สามารถแลกซื้อได้ สร้างสุข ผูกมิตรไมตรี เชื่อมความสัมพันธ์ เสมือนญาติในครอบครัวเดียวกัน มีการสร้างเสริมปัญญา แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น มีทักษะ คิดบวก พร้อมที่จะช่วยเหลือในการพัฒนาได้ทันที การใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ต่อตนเอง สังคม ชุมชน และประเทศชาติ มีจิตเป็นกุศล มีพลัง พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเวลา เป็นสิ่งที่ดีในการสร้างอนาคตต่อไปให้กับลูกหลาน ทำให้มีสติ สมาธิ ปัญญา เกิดขึ้นในวัยสุข อย่างมีความสุขในบ้านปลายชีวิต"
คุณพจนา อายุ 60 กว่าปี